
รายงานล่าสุดระบุว่า มีผู้แสวงบุญที่เข้าร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ในนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เสียชีวิตจากอุณหภูมิสูงมากกว่า 550 ราย ตอกย้ำถึงความยากลำบากของการแสวงบุญครั้งศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นักการทูตอาหรับ 2 ท่านซึ่งทำหน้าที่ประสานงาน เปิดเผยว่าในบรรดาผู้เสียชีวิต มีชาวอียิปต์อย่างน้อย 323 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคลมแดด “ชาวอียิปต์ทั้งหมดเสียชีวิตจากความร้อน ยกเว้นรายเดียวที่เกิดจากฝูงชนเบียดเสียด” นักการทูตกล่าวเสริม
ส่วนชาวจอร์แดนที่เดิมรายงานเสียชีวิต 14 ราย ล่าสุดเพิ่มเป็นอย่างน้อย 60 รายแล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากทุกสัญชาติขณะนี้อยู่ที่ 577 ราย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ระบุว่ากำลังร่วมมือกับทางการซาอุฯ ค้นหาชาวอียิปต์ที่สูญหายระหว่างพิธีฮัจญ์ ขณะที่ซาอุฯ รายงานว่าได้ให้การรักษาผู้แสวงบุญกว่า 2,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากความร้อน แต่ไม่ได้อัปเดตตัวเลขนี้ตั้งแต่ 16 มิ.ย. และไม่เปิดเผยข้อมูลผู้เสียชีวิต
ปีก่อน มีรายงานผู้แสวงบุญฮัจญ์เสียชีวิตอย่างน้อย 240 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ฮัจญ์เป็นพิธีกรรมสำคัญที่ชาวมุสลิมพึงประกอบให้สำเร็จอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต
งานวิจัยของซาอุฯ ระบุว่า การแสวงบุญได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนมากขึ้น โดยอุณหภูมิในพื้นที่ประกอบพิธีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.4°C ทุกทศวรรษ ส่วนศูนย์อุตุฯ ซาอุฯ เผยอุณหภูมิบริเวณมัสยิดใหญ่ในเมกกะ เมื่อ 17 มิ.ย. สูงถึง 51.8°C
แม้ทางการซาอุฯ จะแนะนำให้ผู้แสวงบุญใช้ร่ม ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงแดดจัดช่วงกลางวัน แต่หลายขั้นตอนของฮัจญ์ เช่นการละหมาดบนเขาอาราฟัตเมื่อ 15 มิ.ย. จำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งหลายชั่วโมง ผู้แสวงบุญบางคนเล่าพบเห็นศพริมทางและรถพยาบาลจำนวนมาก
ปีนี้มีผู้แสวงบุญราว 1.8 ล้านคนร่วมพิธีฮัจญ์ โดย 1.6 ล้านคนมาจากต่างประเทศ ตามข้อมูลจากทางการซาอุดีอาระเบีย