
โศกนาฏกรรมที่สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เมื่อคุณเกรซ โคชพันธ์ ได้สูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักไปถึง 5 ชีวิต จากเหตุการณ์เครื่องอบโอโซนทำงานโดยไม่ได้เปิดสวิตช์ ซึ่งคุณเกรซได้แชร์เรื่องราวอันแสนเศร้านี้บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์และใช้เครื่องอบโอโซนในบ้าน
คุณเกรซเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 หลังจากที่เธอทำความสะอาดห้องที่เลี้ยงแมว 12 ตัว และสุนัขพันธุ์เล็ก 5 ตัวเสร็จเรียบร้อย ช่วงเย็นเธอได้ให้อาหารสัตว์เลี้ยงตามปกติ และกลับเข้ามาเก็บอุจจาระ พร้อมทั้งเปิดเครื่องปรับอากาศให้ในช่วงเที่ยงคืนครึ่ง โดยที่เธอไม่รู้ว่าเครื่องอบโอโซนกำลังทำงานอยู่ เนื่องจากไม่ได้เปิดสวิตช์ แต่ยังคงเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้
“เกรซบอกเด็กๆ ว่าหลับฝันดีนะ พรุ่งนี้เจอกัน แล้วก็ขึ้นมานอน ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” คุณเกรซเล่า “จนตอนเช้า 7 โมง พ่อลงไปปล่อยน้องหมา เอาหมาเล็กออกจากห้องแมวทั้งหมด 5 ตัว แต่พ่อไม่รู้ว่านั่นเป็นกลิ่นของเครื่องโอโซน”
พบสัตว์เลี้ยงอาการผิดปกติ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อคุณเกรซลงไปดู พ่อของเธอบอกว่าสุนัขทุกตัวมีอาการผิดปกติ ไม่มีแรง แหงนคอ และมีเสียงครืดๆ เหมือนกันทุกตัว ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่สุนัข จึงสังเกตอาการสักพัก แล้วรีบพาสุนัขที่อาการแย่ที่สุด 3 ตัวไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที
หลังจากพูดคุยกับสัตวแพทย์อยู่นาน คุณเกรซได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งในเวลาประมาณ 10.30 น. เพื่อตรวจดูห้องที่เลี้ยงแมว เมื่อเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นสร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าแมวหลายตัวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้อง โดยที่หน้าต่างปิดสนิท เหมือนกับถูกรมด้วยก๊าซพิษ
“เครื่องโอโซนมันทำงานเอง เกรซไม่ได้ถอดปลั๊กออก แต่เกรซไม่ได้เปิด” คุณเกรซย้ำด้วยความเศร้า
สูญเสียสัตว์เลี้ยง 5 ชีวิต สุนัขอีก 3 ตัวอาการหนัก
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้คุณเกรซสูญเสียสัตว์เลี้ยงไปทั้งหมด 5 ชีวิต ประกอบด้วยแมว 4 ตัว และสุนัขอีก 1 ตัว คือน้องมาตัง ซึ่งเธอรักและผูกพันมาก ส่วนสุนัขที่เหลืออีก 4 ตัวถูกนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ในอาการที่น่าเป็นห่วง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 คุณเกรซได้อัปเดตสถานการณ์ว่า มีสุนัขพันธุ์เล็กที่รอดชีวิตและได้ออกจากโรงพยาบาลสัตว์แล้ว 1 ตัว ส่วนอีก 3 ตัวที่เหลือยังอยู่ระหว่างการรักษาและรอปาฏิหาริย์
ผู้เชี่ยวชาญเตือน “โอโซนเป็นก๊าซพิษ” อันตรายถึงชีวิต
ด้าน อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ ได้ออกมาอธิบายกรณีนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่า “ก๊าซโอโซน เป็นก๊าซพิษ” ที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนและสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่
อาจารย์เจษฎาอธิบายว่า แม้โอโซน (O3) จะเป็นก๊าซที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีประโยชน์ในชั้นบรรยากาศสตราโทสเฟียร์ที่ช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตจากรังสีอันตราย แต่ในระดับพื้นดิน โอโซนเป็นก๊าซพิษที่ทำอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ได้
“หากสูดโอโซนเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปวดศีรษะ แน่นท้อง ท้องเสีย อาเจียน ส่งผลเสียต่อปอด และอาจทำให้เนื้อเยื่อปอดเสียหายได้” อาจารย์เจษฎากล่าว “โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดตัวเล็กกว่ามนุษย์”

เครื่องอบโอโซนทำงานได้อย่างไรและทำไมจึงเป็นอันตราย
เครื่องผลิตโอโซนทำงานโดยการแปลงออกซิเจนในอากาศให้กลายเป็นก๊าซโอโซน เมื่ออะตอมออกซิเจนหนึ่งในโอโซนแยกตัวออกมา จะไปจับกับสิ่งไม่พึงประสงค์ในอากาศ ทำให้สามารถกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องอบโอโซนอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องปล่อยก๊าซออกมาในระดับที่เกินค่ามาตรฐานที่มนุษย์ปลอดภัย ซึ่งตามมาตรฐานคุณภาพอากาศของไทย ค่าเฉลี่ยความเข้มข้นโอโซนต่อ 1 ชั่วโมงไม่ควรเกิน 0.10 ppm และต่อ 8 ชั่วโมงไม่ควรเกิน 0.07 ppm
นี่คือสาเหตุที่ทำให้การอบโอโซนในห้องที่มีคนหรือสัตว์อยู่ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะปริมาณโอโซนที่ใช้ในการฆ่าเชื้อจะสูงเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ
ข้อสังเกตเกี่ยวกับเครื่องอบโอโซนที่ทำงานเองโดยไม่ได้กดเปิด
จากกรณีของคุณเกรซที่ยืนยันว่าไม่ได้เปิดเครื่องแต่เครื่องทำงานเอง ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ความเห็นว่า อาจเกิดจากปัญหาทางเทคนิคหลายประการ เช่น:
- ระบบตั้งเวลาอัตโนมัติที่อาจถูกตั้งไว้แล้วลืมยกเลิก
- ระบบเซ็นเซอร์คุณภาพอากาศที่ทำงานผิดพลาด ทำให้เครื่องเปิดเองเมื่อตรวจพบกลิ่นหรือฝุ่น
- การลัดวงจรของระบบควบคุม โดยเฉพาะกับเครื่องที่เคยมีประวัติการเคลม
- ความชื้นหรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในห้องที่อาจกระตุ้นให้ระบบทำงาน
คุณเกรซระบุว่าเครื่องนี้เคยส่งเคลมถึง 3 ครั้ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ และอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้

คำแนะนำสำหรับการใช้เครื่องอบโอโซนอย่างปลอดภัย
จากกรณีสลดใจนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำสำหรับการใช้เครื่องอบโอโซนอย่างปลอดภัย ดังนี้:
1. ทำความเข้าใจหลักการทำงานของเครื่องอบโอโซน
โอโซนคือโมเลกุลที่ประกอบด้วยออกซิเจน 3 อะตอม ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค แต่ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ การสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการไอ คันคอ หายใจลำบาก และอาจทำลายเนื้อเยื่อปอดได้
2. อย่าใช้เครื่องอบโอโซนในพื้นที่ที่มีคนหรือสัตว์อยู่
การอบโอโซนควรทำในพื้นที่ที่ไม่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ในขณะนั้น เนื่องจากต้องใช้ปริมาณโอโซนที่สูงเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย นอกจากนี้ ควรนำพืชกระถางออกจากพื้นที่ด้วย เพราะโอโซนอาจส่งผลเสียต่อพืชเช่นกัน
3. ปิดพื้นที่อบโอโซนให้มิดชิด
ควรปิดประตูและหน้าต่างให้แน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซโอโซนเล็ดลอดออกไปยังพื้นที่ข้างเคียงและก่ออันตรายต่อผู้อื่น
4. ระวังวัสดุที่อาจถูกโอโซนกัดกร่อน
โอโซนสามารถทำลายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง ทำให้เส้นใยผ้าเปราะบาง และทำให้สีย้อมผ้าและสีในภาพวาดจางลงได้ ควรนำสิ่งของเหล่านี้ออกจากพื้นที่ก่อนการอบโอโซน
5. รอให้โอโซนสลายตัวก่อนเข้าพื้นที่
หลังจากอบโอโซนเสร็จ ควรรอประมาณ 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้โอโซนสลายตัวหมดก่อนที่จะกลับเข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้ แม้จะไม่ได้กลิ่นโอโซนแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอโซนตกค้าง เพราะโอโซนสามารถทำให้ประสาทการรับกลิ่นเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว
6. กำจัดสาเหตุของกลิ่นหรือสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ต้นตอ
การอบโอโซนเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว หากไม่กำจัดสาเหตุที่แท้จริง เช่น ขยะหรือสิ่งสกปรก ปัญหาก็จะกลับมาอีก
7. ปฏิบัติตามคู่มือและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
โอโซนอาจทำปฏิกิริยากับสารเคมีในพื้นที่ และก่อให้เกิดสารที่ระคายเคืองได้ ผู้ใช้ควรศึกษาคู่มือให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน
8. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน
นอกจากการปิดเครื่องแล้ว ควรถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานโดยอัตโนมัติหรือจากความผิดพลาดของระบบ

การเยียวยาและแนวทางป้องกันในอนาคต
กรณีของคุณเกรซเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องอบโอโซนในบ้านเรือน ที่จำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พิจารณาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่าในการกำจัดกลิ่นและเชื้อโรค เช่น:
- เครื่องฟอกอากาศที่ใช้ระบบกรอง HEPA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นและเชื้อโรคโดยไม่ปล่อยสารเคมีอันตราย
- การระบายอากาศตามธรรมชาติด้วยการเปิดหน้าต่าง
- ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ถ่านกัมมันต์
- การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดสาเหตุของกลิ่นและเชื้อโรค
สำหรับผู้ที่ยังคงต้องการใช้เครื่องอบโอโซน ควรเลือกรุ่นที่มีระบบความปลอดภัยสูง มีการรับรองมาตรฐาน และควรติดตั้งเครื่องตรวจจับก๊าซโอโซนเพื่อเตือนภัยหากมีการรั่วไหลหรือการทำงานผิดปกติของเครื่อง
สรุป
โศกนาฏกรรมสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณเกรซเป็นเรื่องเศร้าที่เกิดจากอุบัติเหตุที่น่าจะป้องกันได้ การใช้เครื่องอบโอโซนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และต้องเข้าใจถึงอันตรายและข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ การสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักไปถึง 5 ชีวิตเป็นราคาที่แพงเกินกว่าจะจ่ายสำหรับความไม่ระมัดระวัง และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกคนที่ใช้เครื่องอบโอโซนหรือกำลังพิจารณาจะใช้เครื่องนี้ในบ้าน
การตัดสินใจง่ายๆ อย่างการถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน อาจเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันโศกนาฏกรรมแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต