
โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริก (Uric Acid) ในกระแสเลือดมากเกินไป ทำให้เกิดการตกผลึกของกรดยูริกที่ข้อต่อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดข้ออย่างเฉียบพลัน โดยมักเกิดขึ้นบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า และเข่า
ทำไมถึงเกิดโรคเก๊าท์?
กรดยูริกเกิดจากการสลายตัวของสารพิวรีน (Purine) ซึ่งพบได้ในอาหารบางประเภท เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากร่างกายมีการสะสมกรดยูริกมากเกินไป อาจเกิดการตกผลึกที่ข้อต่อและกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ
อย่าโทษไก่! เนื้อแดงทำให้เป็นเก๊าท์ได้มากกว่า
มีความเชื่อผิด ๆ ว่าการกินไก่เป็นสาเหตุหลักของโรคเก๊าท์ แต่แท้จริงแล้ว เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ มีปริมาณพิวรีนสูงกว่าไก่มาก และเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคเก๊าท์
ตารางเปรียบเทียบปริมาณพิวรีนในอาหาร (มก. ต่อ 100 กรัม)
อาหาร | ปริมาณพิวรีน (มก.) |
---|---|
เครื่องในสัตว์ (ตับ, ไต) | 300-800 |
เนื้อวัว | 120-200 |
เนื้อหมู | 100-180 |
เนื้อแกะ | 100-150 |
เนื้อไก่ | 50-150 |
ปลาซาร์ดีน | 300-400 |
กุ้ง | 150-200 |
ผักใบเขียวเข้ม (เช่น ผักขม) | 50-100 |
ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง | 50-150 |
เห็ด | 50-100 |
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเก๊าท์
- กินไก่แล้วเป็นเก๊าท์ – ไม่จริง ไก่มีพิวรีนน้อยกว่าเนื้อแดงหลายชนิด
- คนอ้วนเท่านั้นที่เป็นเก๊าท์ – แม้คนอ้วนจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่คนที่มีภาวะกรดยูริกในเลือดสูงก็สามารถเป็นได้
- ดื่มเบียร์มากเกินไปทำให้เกิดเก๊าท์ – แอลกอฮอล์โดยเฉพาะเบียร์เพิ่มระดับกรดยูริก แต่ไม่ใช่สาเหตุเดียว
การกินเนื้อแดงมากเกินไปเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์
เนื้อแดงเป็นแหล่งของพิวรีนที่สูง และมีการศึกษาที่ชี้ว่า การบริโภคเนื้อแดงมากเกินไปสามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรคเก๊าท์
งานวิจัยยืนยัน: เนื้อแดงเพิ่มความเสี่ยงโรคเก๊าท์จริงหรือไม่?
🔬 งานวิจัยที่ 1: การบริโภคเนื้อแดงเชื่อมโยงกับโรคเก๊าท์โดยตรง
📖 งานวิจัยจาก The New England Journal of Medicine (Choi et al., 2004)
- นักวิจัยติดตามผู้ชาย 47,150 คนเป็นเวลา 12 ปี
- พบว่า ผู้ที่บริโภคเนื้อแดงมาก มีความเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์เพิ่มขึ้นถึง 1.41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่กินน้อย
- การบริโภคอาหารทะเลก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน แต่ไม่มากเท่ากับเนื้อแดง
🔬 งานวิจัยที่ 2: พฤติกรรมการบริโภคเนื้อแดงและอัตราการเกิดโรคเก๊าท์
📖 งานวิจัยจาก BMJ (British Medical Journal) ปี 2015
- วิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ในยุโรป พบว่า การบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด
- ผู้ที่กินเนื้อแดงมากกว่า 100 กรัมต่อวัน มีโอกาสเป็นเก๊าท์สูงขึ้นถึง 29% เมื่อเทียบกับผู้ที่กินน้อยกว่า 50 กรัมต่อวัน

🔬 งานวิจัยที่ 3: อาหารที่มีพิวรีนสูงกับระดับกรดยูริกในร่างกาย
📖 งานวิจัยจาก American Journal of Clinical Nutrition (2012)
- วิเคราะห์อาหารที่มีพิวรีนสูง พบว่า เนื้อแดงมีพิวรีนมากกว่าเนื้อไก่และปลา
- พบว่า เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ มีพิวรีนสูงกว่าไก่ถึง 1.5-2 เท่า
- เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต และม้าม มีพิวรีนสูงสุด
การป้องกันและลดการเกิดโรคเก๊าท์
- ลดการบริโภคอาหารที่มีพิวรีนสูง
- ดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- บริโภคอาหารที่ช่วยลดกรดยูริก เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว และนมไขมันต่ำ
7 ประเทศที่มีอัตราการเป็นโรคเก๊าท์สูงสุด และเหตุผลที่คุณอาจคาดไม่ถึง
โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นหนึ่งในโรคข้ออักเสบที่พบมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีวัฒนธรรมการบริโภคเนื้อแดง อาหารแปรรูป และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 7 ประเทศที่มีอัตราการเป็นโรคเก๊าท์สูงที่สุดในโลก พร้อมเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง
1. สหรัฐอเมริกา (USA) – ประเทศแห่งเนื้อแดงและอาหารฟาสต์ฟู้ด
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: สูงที่สุดในโลก ประมาณ 3.9% ของประชากรผู้ใหญ่
🔹 สาเหตุหลัก:
- การบริโภค เนื้อแดง และ อาหารฟาสต์ฟู้ด สูงมาก
- เครื่องดื่มที่มี ฟรุกโตสสูง เช่น น้ำอัดลม และเครื่องดื่มให้พลังงาน
- โรคอ้วน (Obesity) สูงมาก ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะกรดยูริกสูง
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [CDC, Arthritis Foundation]
2. นิวซีแลนด์ – อัตราการเกิดโรคสูงในกลุ่มชาวเมารีและแปซิฟิก
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 3-4% ของประชากร
🔹 สาเหตุหลัก:
- กลุ่มชาติพันธุ์ เมารี และชาวแปซิฟิก มีพันธุกรรมที่ไวต่อการเกิดโรค
- การบริโภค อาหารทะเลสูง ซึ่งมีพิวรีนสูง
- ความชุกของโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับโรคเก๊าท์
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [New Zealand Ministry of Health]
3. จีน – วัฒนธรรมอาหารที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์และแอลกอฮอล์
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 1-3% และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
🔹 สาเหตุหลัก:
- อาหารจีนแท้มี เนื้อสัตว์ แอลกอฮอล์ และอาหารทะเลสูง
- วิถีชีวิตในเมืองทำให้คนออกกำลังกายน้อย
- การบริโภคเบียร์เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มชายวัยทำงาน
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [Chinese Medical Journal]
4. ไต้หวัน – วัฒนธรรมการบริโภคแอลกอฮอล์และอาหารทะเล
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 2-3%
🔹 สาเหตุหลัก:
- คนไต้หวันนิยมดื่ม เบียร์ และเหล้าจีน ซึ่งส่งผลต่อการสะสมกรดยูริก
- อาหารยอดนิยม เช่น หอยนางรม กุ้ง และเนื้อหมู ที่มีพิวรีนสูง
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [Taiwan National Health Research Institutes]
5. ญี่ปุ่น – อาหารทะเลสูง และวัฒนธรรมดื่มเบียร์หลังเลิกงาน
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 1.5-2%
🔹 สาเหตุหลัก:
- อาหารทะเล เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และหอยเชลล์ สูงมาก
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะ เบียร์ และสาเก
- ความเครียดสูงและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญผิดปกติ
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [Japanese Society of Gout and Uric Acid]
6. สหราชอาณาจักร (UK) – อาหารแปรรูปและแอลกอฮอล์
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 2% ของประชากร
🔹 สาเหตุหลัก:
- การบริโภค อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน
- การดื่มเบียร์และไวน์สูง โดยเฉพาะในกลุ่มชายวัยกลางคน
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [British Medical Journal]
7. ไทย – ประเทศในเอเชียที่มีแนวโน้มอัตราโรคเก๊าท์สูงขึ้น
🔹 อัตราผู้ป่วยเก๊าท์: ประมาณ 1-2% แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
🔹 สาเหตุหลัก:
- อาหารไทยหลายชนิดมีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปู ปลาหมึก
- วัฒนธรรมการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์
- โรคเบาหวานและอ้วนที่เพิ่มขึ้นในไทย ส่งผลให้คนไทยมีความเสี่ยงต่อเก๊าท์มากขึ้น
📖 ข้อมูลอ้างอิง: [Thai Rheumatology Association]

คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นโรคเก๊าท์
- รับประทานอาหารที่มีพิวรีนต่ำ
- ควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตสสูง
- พบแพทย์และติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
กินเนื้อแดงแค่ไหนถึงปลอดภัย? คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
- องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ จำกัดการบริโภคเนื้อแดงไม่เกิน 70 กรัมต่อวัน
- ควร ลดการบริโภคเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ซึ่งมีสารก่อมะเร็งร่วมด้วย
- ควรเลือกโปรตีนจาก ปลา ไก่ เต้าหู้ หรือถั่ว แทนเนื้อแดง
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเก๊าท์
- โรคเก๊าท์รักษาหายขาดได้ไหม? – ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ แต่ควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและยา
- สามารถกินเนื้อสัตว์ได้ไหม? – ควรเลือกเนื้อสัตว์ที่มีพิวรีนต่ำและกินในปริมาณที่เหมาะสม
- เครื่องดื่มชนิดใดที่ควรหลีกเลี่ยง? – เบียร์ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ควรกินอะไรเพื่อช่วยลดกรดยูริก? – ผลไม้รสเปรี้ยว นมไขมันต่ำ และน้ำมาก ๆ
- มีวิธีลดอาการปวดจากเก๊าท์ไหม? – ใช้ยาแก้อักเสบ ลดน้ำหนัก และประคบเย็นที่ข้อ
- สามารถออกกำลังกายได้หรือไม่? – ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มแรงกดดันที่ข้อมากเกินไป
- การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงของโรคเก๊าท์หรือไม่? – งานวิจัยบางชิ้นระบุว่ากาแฟอาจช่วยลดระดับกรดยูริก
- อาหารทะเลทุกชนิดเป็นอันตรายต่อโรคเก๊าท์หรือไม่? – ไม่ทั้งหมด ควรเลือกบริโภคปลาที่มีพิวรีนต่ำ
- คนที่ไม่มีอาการปวดข้อสามารถมีระดับกรดยูริกสูงได้หรือไม่? – ได้ และควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- ควรพบแพทย์เมื่อไร? – เมื่อมีอาการปวดข้ออย่างเฉียบพลัน หรือสงสัยว่ามีภาวะกรดยูริกสูง
การเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเก๊าท์และการบริโภคอาหารมีผลต่อสุขภาพของคุณ การปรับพฤติกรรมและการเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเก๊าท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ