
ตำรวจทางหลวงจังหวัดตากทลายขบวนการขนแรงงานเถื่อน พบพกปืนพร้อมกระสุนเต็มแม็ก!
ปฏิบัติการเข้มข้นของตำรวจทางหลวงจังหวัดตากภายใต้นโยบายปราบปรามขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันถึงความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายพีรพัน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 10 คน พร้อมอาวุธปืนขณะกำลังเดินทางไปยังพื้นที่ชั้นในของประเทศ

ขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ซับซ้อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณจุดตรวจหน้าหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงสามเงา จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถกระบะต้องสงสัย สีดำ มีลักษณะบรรทุกน้ำหนักเกินปกติ เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีแรงงานต่างด้าวแอบซ่อนอยู่ภายในรถถึง 10 คน เป็นชาย 7 คน และหญิง 3 คน โดยไม่มีเอกสารแสดงตัวตนใด ๆ
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 12 นัด ซึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายข้างของนายพีรพัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมทันที
เส้นทางขนคนเถื่อนจากชายแดนสู่ใจกลางประเทศ
จากการสอบปากคำ นายพีรพัน ให้การรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างให้ขนแรงงานกลุ่มนี้จากอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อไปส่งยังรอยต่อจังหวัดกำแพงเพชร – นครสวรรค์ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินสูงถึง 50,000 บาทต่อรอบ
“ผมรับคนจากชายแดน ขับรถไปส่งที่นัดหมายตามเส้นทางที่กำหนด พอถึงจุดหมายจะมีคนอีกกลุ่มมารับช่วงต่อ” นายพีรพันให้การในเบื้องต้น
อาวุธปืน – เครื่องมือป้องกันหรือปัจจัยเพิ่มโทษ?
นอกจากการขนแรงงานผิดกฎหมายแล้ว สิ่งที่ทำให้คดีนี้รุนแรงขึ้นคือการพบอาวุธปืนพร้อมกระสุน โดยนายพีรพันอ้างว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของตนเอง และพกติดตัวเพื่อป้องกันตัวระหว่างเดินทาง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้ต้องหามิได้มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ข้อหาและบทลงโทษ
ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาดังนี้:
- ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
- พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 10 คน ถูกแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยทั้งหมดจะถูกควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและเข้าสู่กระบวนการผลักดันกลับประเทศ
มาตรการกวาดล้างขบวนการค้าแรงงานเถื่อน
ตำรวจสอบสวนกลางได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกี่ยวโยงกับอาชญากรรมข้ามชาติ และยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อตรวจสอบเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงแรงงานเถื่อน และคาดว่าจะมีการจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เพื่อขจัดเครือข่ายผิดกฎหมายเหล่านี้ให้หมดไปจากสังคมไทย