
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 30 กันยายน 2567 – Google ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 36,000 ล้านบาทเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทย โดยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในกรุงเทพฯ และชลบุรี เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก พร้อมต่อยอดโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ AI ของประเทศไทยและเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลและ AI ให้กับคนไทย ตามพันธกิจ “Leave No Thai Behind”
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และ รูธ โพรัท (Ruth Porat) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของ Alphabet และ Google ได้เปิดเผยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การประกาศแผนการลงทุนนี้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงในเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งครอบคลุมการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ นโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policy) และการทำให้คนไทยเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้มากขึ้น
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
Google วางแผนลงทุน 36,000 ล้านบาทในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 140,000 ล้านบาทให้กับ GDP ของประเทศไทยภายในปี 2572 และสร้างงานโดยเฉลี่ย 14,000 ตำแหน่งต่อปี ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2572 ตามการวิเคราะห์ของ Deloitte โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และศูนย์ข้อมูลในกรุงเทพฯ และชลบุรีจะช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ Google Cloud, นวัตกรรม AI และบริการยอดนิยมของ Google เช่น Google Search, Google Maps และ Google Workspace ซึ่งถูกใช้โดยองค์กรและประชาชนทั่วโลก
การประกาศครั้งนี้ยังสอดคล้องกับการประกาศของ Google Cloud เมื่อปี 2565 ที่จะเปิดตัว Cloud Region ในประเทศไทย เพื่อช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจขนาดเล็ก สตาร์ทอัพ และองค์กรขนาดใหญ่ สามารถเข้าถึง AI/ML (Machine Learning) และการประมวลผลแบบออนดีมานด์ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและลดความหน่วงของบริการต่างๆ นอกจากนี้ ยังมอบเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าควบคุมได้ดีขึ้นในด้านความปลอดภัย สถานที่ตั้งของข้อมูล และมาตรฐานการปฏิบัติงาน
คำกล่าวจากผู้นำและผู้บริหาร
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “บุคลากรที่มีทักษะสูงและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีจากผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Google จะช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เร็วขึ้น รัฐบาลรู้สึกซาบซึ้งใจในความร่วมมือของ Google ในการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะความพยายามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลที่สำคัญให้กับคนไทยนับล้านคน”
เธอกล่าวเสริมว่า การลงทุนในศูนย์ข้อมูลและ Cloud Region ของ Google ในกรุงเทพฯ และชลบุรี พร้อมกับการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้าน Cloud Computing และ AI สอดคล้องกับนโยบาย Cloud-First ของรัฐบาล การร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน
รูธ โพรัท ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของ Alphabet และ Google กล่าวว่า “การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ Google ในประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญในการขยายโอกาสในยุคดิจิทัล การลงทุนนี้จะช่วยให้ธุรกิจไทย นวัตกร และชุมชนต่างๆ ได้ประโยชน์จากความสามารถของเทคโนโลยีคลาวด์และ AI”
การส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลและ AI
Google ยังคงเดินหน้าโครงการด้านความรู้เท่าทัน AI (AI Literacy) อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการให้ความรู้และพัฒนาทักษะด้าน AI ให้กับคนไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Google ได้ฝึกอบรมคนไทยมากกว่า 3.6 ล้านคน รวมถึงนักเรียน ครู ผู้ประกอบการ SME และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีโครงการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลใหม่ๆ เช่น AI Essentials และ Samart Skills ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับ AI และการใช้งาน
โครงการ Gemini Academy ก็เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ช่วยฝึกอบรมทักษะด้าน AI ให้ครูไทย ซึ่งได้ฝึกอบรมนักการศึกษาไทยไปแล้วกว่า 20,000 คนตั้งแต่ปี 2566 โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนคนไทย 150,000 คนในการเพิ่มทักษะด้าน AI ภายในปี 2569
การพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สำหรับภาษาไทย
Google ยังคงพัฒนาโครงการ Project SEALD (Southeast Asian Languages in One Network Data) ร่วมกับ AI Singapore ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้าน AI ของสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาโมเดลภาษา AI ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการทำความเข้าใจภาษาไทยและภาษาของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ AI สามารถเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและการใช้ภาษาได้ดียิ่งขึ้น