ศึกดาร์บี้แมตช์ประจำกรุงลอนดอนนัดล่าสุด เป็น “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่สามารถคว้าชัยชนะเหนือ “สเปอร์ส” คู่ปรับตลอดกาลไปได้อีกครั้ง ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูโขกของ กาเบรียล เฆซุส เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันที่พวกเขาบุกมาชนะที่รังเหย้าของคู่แข่ง และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันให้ได้รับชมกัน
จุดเด่นและข้อคิดจากเกมนี้
- เกมการแข่งขันไม่ได้สนุกสนานและดุเดือดเท่าที่คาดหวังไว้ เนื่องจากมีการยิงประตูกันเพียงแค่ลูกเดียว ทำให้ขาดบรรยากาศความมันส์ไปบ้าง
- ผมรู้สึกว่าการที่ อาร์เซน่อล ต้องสวมชุดเยือนสีดำแทนชุดแดงดั้งเดิม ทำให้บรรยากาศของดาร์บี้แมตช์ลอนดอนดูไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่นัก เพราะเราคุ้นเคยกับการเห็นสีแดงของพวกเขามากกว่า
- ต้องชื่นชมกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ที่วางแผนการเล่นได้อย่างเฉียบแหลม โดยให้ลูกทีมเล่นอย่างระมัดระวังและอดทน รอจังหวะที่เหมาะสมก่อนจะได้ประตูชัยจากลูกเตะมุม แม้จะขาดนักเตะสำคัญอย่าง ดีแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ก็ตาม
- สเปอร์สเล่นได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แม้จะครองบอลและมีโอกาสทำประตูมากกว่า แต่กลับไม่สามารถจบสกอร์ได้เลย เกมรุกซึ่งถือเป็นจุดแข็งกลับดูฝืดเคืองไปหมด
- หลังจากพลาดท่าเสียแต้มให้กับ ไบรท์ตัน ที่บ้าน อาร์เซน่อล ต้องเจอโปรแกรมหินอย่างการบุกเยือนถิ่นของ สเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดต่อกัน การบุกมาหักปากนกพิราบในสภาพที่ไม่สมบูรณ์แบบถือเป็นโบนัสที่ช่วยให้พวกเขายังคงรั้งอยู่ในกลุ่มนำของตารางคะแนน
จากการสังเกตของผม อาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ไม่ได้เน้นเกมรุกแบบบ้าบิ่นเหมือนสองซีซั่นก่อนหน้า แต่กลับมีความเยือกเย็นและให้ความสำคัญกับผลการแข่งขันมากกว่าความสนุกสนาน พวกเขายังคงเป็นคู่ท้าชิงจ่าฝูงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่
บทสรุป
แม้เกมนี้จะไม่ได้สนุกสนานและดุเดือดเหมือนที่หลายคนคาดหวังไว้ แต่ก็ถือเป็นชัยชนะที่สำคัญของ อาร์เซน่อล ที่ช่วยให้พวกเขายังคงอยู่ในกลุ่มนำของตารางคะแนน ด้วยวิธีการเล่นที่เน้นความระมัดระวังและอดทน รอจังหวะที่เหมาะสมก่อนจะได้ประตูชัย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ มิเกล อาร์เตต้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเล่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี