พี่เมียปืนดุ ลั่นไกจบชีวิตผัวใหม่น้องสาว ดับคาบ้าน เหตุหยามศักดิ์ศรี เร่งจัดกำลังไล่ล่า
ตรัง พี่เมียปืนดุ สะพายลูกซองยาว ลั่นไก 2 นัด จบชีวิตผัวใหม่น้องสาว ดับคาบ้าน เหตุหยามศักดิ์ศรี หลังย้ายเข้าอยู่เพียง 2 วัน ตร.ขออำนาจศาลออกหมายจับ เร่งจัดกำลังไล่ล่าตัว คาดหลบหนีขึ้นภูเขา
20 ส.ค. 67 – ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธปืน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 21/5 หมู่ 5 บ้านด่าน ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ริมถนนสายน้ำผุด-ไสเดือย
หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง นายจตุรงค์ เครือเตียว กำนันตำบลน้ำผุด กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ๊วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เข้าไปภายในบ้านบนพื้นรอยต่อระหว่างห้องโถงกับห้องครัว และเป็นบริเวณหน้าประตูห้องนอนกลางบ้าน พบร่างของ นายณรงค์ ซ้ายอ่อน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 หมู่ 7 ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด
เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์เวรได้ชันสูตรพลิกศพ พบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว เข้าที่แผ่นหลัง ท้ายทอย และสะเอวด้านขวา ลูกปรายกระสุนปืนลูกซองเจาะเข้าร่างจำนวนหลายแผล บนฝาผนังบ้านที่อยู่ติดกับร่างผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืนขนาดเดียวกันยิงเข้าจนฝาผนังปูนแตกเป็นกลุ่มใหญ่ ใกล้กันยังพบหมอนรองกระสุนปืนตกอยู่ ถัดออกมาบนพื้นดินและพื้นปูนหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ชนิดปลอกสีขาว ตกอยู่ใกล้เคียงกัน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายบุญธรรม ทองรักษ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.5 บ้านด่าน ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายแฟนผู้เสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัว นางเอ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี แฟนผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุ พร้อมกับเพื่อนบ้านรายหนึ่งไปสอบปากคำอย่างละเอียด ที่ สภ.เมืองตรัง
นางเอ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุพี่ชายตน ที่มีบ้านพักอยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ ได้สะพายอาวุธปืนลูกซองยาว เดินเข้ามาหน้าบ้านหลังเกิดเหตุ โดยเรียกตน และบอกว่า ให้ตนพาผัวของตน (ผู้ตาย) ไปบ้านพี่ (ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชาย) สักประเดี๋ยว
ตนก็ถามกลับไปว่าทำไม สามีใหม่เขาแค่มาเที่ยว และมาช่วยทำงานสอยลูกมังคุดได้แค่ 2 วัน ก่อนที่พี่ชายจะใช้ปืนยิงใส่สามีใหม่ตน 2 นัดทันที ตนก็ไม่รู้ว่า พี่ชายไม่พอใจอะไรสามีใหม่ แต่รู้ว่า พี่ชายไม่ชอบพอสามีใหม่ แต่ก็ไม่เคยห้ามว่าไม่ให้คบหากัน
ส่วนเพื่อนบ้าน มีสัมพันธ์ทางเครือญาติ เปิดเผยว่า หลังกลับจากเต้นแอโรบิค ขณะที่ตนอยู่บ้านแม่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับบ้านหลังเกิดเหตุ ปรากฏว่าได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นมาจากบ้านเกิดเหตุจำนวน 2 นัด ก่อนที่จะเห็นผู้ก่อเหตุเดินสะพายปืนลูกซองยาวตัดผ่านบ้านไป ตอนนั้นยังไม่ได้เอะใจว่า เขาเป็นคนยิง จึงเดินออกมาดูที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต ส่วนจะขับรถหนีหรือไม่นั้นตนก็ไม่ได้เห็น
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า นางเอ ได้ไปมีแฟนใหม่คือผู้ตาย ซึ่งเป็นชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และแฟนใหม่ก็เป็นคนที่รู้จักกันดีกับพี่ชายของนางเอมาก่อน ทำให้พี่ชายของนางเอ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เคยบอกไว้ว่า หากจะคบหากันก็ไม่เป็นไร แต่ให้ไปอยู่กันที่อื่นได้ อย่ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้
ส่วนสามีเก่านางเอ ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว กระทั่ง นางเอ ได้ออกจากบ้านไปอยู่กับผู้ตายที่ อ.ปากพนัง ได้ระยะหนึ่ง จนวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา นางเอได้กลับจาก อ.ปากพนัง มาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ
ต่อมาคาดว่า ประมาณวันที่ 17 ส.ค. ผู้ตายซึ่งเป็นแฟนใหม่ ก็ได้ตามมาอยู่กับ นางเอ ที่บ้านหลังนี้ด้วย จนทำให้สามีเก่าต้องย้ายไปอยู่บ้านอื่น อาจทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจในลักษณะเป็นการหยามศักดิ์ศรี ทั้งๆ ที่เคยพูดบอกไว้แล้ว แต่ปรากฏว่า ผู้ตายยังคงมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้อีก
จนกระทั่ง ผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนลูกซองยาว ชนิดบรรจุ 5 นัด เข้ามาบริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ ก่อนจะยิงใส่ผู้ตายเข้าไป 2 นัดจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยที่ผู้ก่อเหตุได้เดินสะพายปืนลูกซองยาวออกไปจากบ้าน โดยขับรถ จยย.หลบหนีไป และคาดว่า จะหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในป่าในพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาป่ารกทึบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งไล่กล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตทางเครือญาติ ได้เตรียมนำไปประกอบพิธีการตามศาสนา ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป