ข่าวเศร้าสลดใจจากจังหวัดนครพนมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่สังคมไทย เหตุการณ์นี้เกิดจากการขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจรอย่างประมาทของนางสุพรหม อายุ 50 ปี ชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงกับรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีนางสาววิชุดา ผู้ช่วยพยาบาลวัย 23 ปีที่ตั้งครรภ์ 8 เดือนเป็นผู้ขับขี่ จนนางสาวต้องจากไปพร้อมทารกในครรภ์อย่างน่าเศร้าใจ
เบื้องหลังเหตุการณ์สาว สปป.ลาว ขับรถฝ่าไฟแดงชนพยาบาลสลดใจ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านดอนโมง ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสุพรหมขับรถยนต์ SUV ฟอร์ด เทrrิทอรี ป้ายทะเบียนลาว ฝ่าสัญญาณไฟแดงพุ่งชนรถยนต์โตโยต้า วีออส ซึ่งนางสาววิชุดาเป็นผู้ขับขี่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 10 ราย โดยนางสาววิชุดาเสียชีวิตพร้อมทารกในครรภ์อย่างน่าเศร้าใจ
การติดตามจับกุมผู้ต้องหา
หลังเกิดเหตุ นางสุพรหมได้หลบหนีข้ามแดนกลับไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในทันที เป็นเหตุให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาเนื่องจากมีฐานะร่ำรวย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตำรวจได้ชี้แจงว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา
คำรับสารภาพและให้การชดเชย
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นางสุพรหมซึ่งเป็นพนักงานสถาบันการเงินในลาว ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.นครพนม โดยนางสุพรหมรับสารภาพว่าวันเกิดเหตุนั้น เธอขับรถมาจากจังหวัดสกลนครเพื่อเดินทางเข้าตัวเมืองนครพนม แต่ด้วยความไม่คุ้นเคยเส้นทาง จึงมองไม่เห็นสัญญาณไฟจราจร ก่อนจะฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถของนางสาววิชุดาอย่างประมาท นอกจากนี้นางสุพรหมยังได้มอบเงินจำนวน 60,000 บาทให้แก่ครอบครัวนางสาววิชุดาเพื่อใช้ในพิธีศพเบื้องต้น
คำตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม
หลังจากการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้นำตัวนางสุพรหมส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยล่าสุดศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวนางสุพรหมในวงเงิน 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับความประมาทขณะขับขี่ยานพาหนะ ทั้งยังเป็นการเตือนใจให้ผู้ขับขี่ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนและเคารพก
