ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้เลิกกิจการพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติกรรมคุกคามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยให้เพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
โดยในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยมีข้อกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2561 มาตรา 92
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
หลังจากการประชุมปรึกษาหารือ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคก้าวไกลและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งห้ามมิให้ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ภายในระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่มีคำสั่งในคดีนี้ โดยมีผลบังคับใช้กับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2567 รวมทั้งสิ้น 11 คน
รายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค
- ชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค
- ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
- ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
- ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ
- สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้
- อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง
- อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก
- สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนปีกแรงงาน
- อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินที่มีนัยสำคัญต่อการเมืองไทย โดยสั่งปิดกิจการพรรคการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลานาน ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิดและการต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย